เครื่องต๊าปเกลียวจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ลักษณะได้แก่ Spiral Flute Tap (ต๊าปฟันเป็นเกลียว), Spiral Point Tap (ต๊าปปลายเป็นเกลียว), Straight Flute Tap (ต๊าปฟันตรง), Fluteless Tap (ต๊าปรีดเกลียว) ทั้ง 4แบบนี้ได้ถูกแบ่งตามลักษณะการสร้างเศษของดอกต๊าป การควบคุมเศษขึ้นอยู่กับลักษณะงานของเราว่าแบบไหนถึงจะเหมาะสม เรามาเริ่มต้นจากแบบแรกกันเลย
Spiral Flute Tap หรือ ต๊าปฟันเป็นเกลียว ก็ตามที่ชื่อบอกต็าปประเภทนี้มีลักษณะคมตัดเป็นเกลียวคล้ายสว่าน เพื่อควมคุมเศษให้ออกเป็นเส้นขดต่อเนื่องและบังคับให้ไหลขึ้นข้างบน ต๊าปชนิดนี้จึงเหมาะที่สุดสำหรับการนำมาใช้กับรูที่ไม่ทะลุเพราะเศษจะไม่ไหลลงไปตันในก้นรูได้ แต่เพราะการที่ต้องมีคมตัดเป็นเกลียวจึงทำให้แก่นของต๊าปเล็กกว่าประเภทอื่นส่งผลให้ความแข็งแรงของตัวต๊าปน้อยลง
Spiral Point Tap หรือ ต๊าปปลายเป็นเกลียว มีฟันคมตัดที่ตรงทั้งตัดแต่เฉพาะบริเวณปลายเท่านั้นที่ถูกลับให้เป็นเกลียวฟันที่เป็นเกลียวจะช่วยสร้างเศษให้เป็นขดต่อเนื้องและลดแรงตัดในขณะเดียวกัน องศาคมตัดตรงปลายที่เป็นเกลียวก็เป็นคมตัดมุมลบ (Negative) เศษที่สร้างขึ้นมาจึงถูกผลักไปข้างล่าง ต๊าปแบบนี้จึงเหมาะที่สุดในงานที่เศษยาวต่อเนื่องและเป็นรูทะลุ การที่เป็นฟันตรงที่ตื้นๆก็ทำให้ตัวต๊าปนั้นแข็งแรงอีกด้วย
Straight Flute Tap หรือ ต็าปฟันตรง มีรูปแบบเหมือน Spiral Point Tap ยกเว้นจะไม่มีคมตัดที่เป็นเกลียวที่ปลาย ต๊าปลักษณะนี้มักจะนำมาใช้ในการต๊าปด้วยมือเพราะมีความแข็งแรง ส่วนมากจะใช้กับรูทะลุแต่ใช้กับรูตันตื้นๆก็ได้ โดยเฉพาะงานที่เศษไม่ยาวหรือเป็นผงเช่นเหล็กหล่อ
Fluteless Tap หรือ Forming Tap หรือ ต๊าปรีดเกลียว หรือต๊าปไร้เศษ ที่ได้ชื่อแบบนี้เพราะต๊าปประเภทนี้ไม่ใช้วิธีตัดเฉือนจึงไม่ทำให้เกิดเศษจากการตัด ความแข็งแรงของต๊าปสูงมากเพราะไม่มีฟันตัดเลย (บางทีจะเห็นมีร่องเหมือนฟันตัดแต่นั่นคือร่องที่ให้น้ำมันหล่อลื่นลงได้) ใช้ได้ทั้งรูตันและรูทะลุเพราะไม่มีเศษที่ต้องเป็นห่วง ข้อควรระวังในการใช้ต๊าปนี้ก็คือขนาดในการเจาะรูก่อนตัดจะไม่เหมือนในการใช้ต๊าปประเภทอื่น รูเจาะนำจะใหญ๋กว่าฉะนั้นควรต้องอ่านตารางของผู้ผลิตให้ดีๆก่อนใช้ ไม่งั้นหักแน่นอน อีกอย่างคือต๊าปนี้จะใช้ได้เฉพาะวัสดุที่รีดได้เท่านั้นเช่นเหล็กเหนียว อลูมีเนียม ทองแดง แต่วัสดุที่ขึ้นรูปไม่ได้อย่างเหล็กหล่อจะใช้ไม่ได้ เกลียวที่ได้จากต๊าปรีดเกลียวจะมีความแม่นยำสูงและแข็งแรงกว่าเกลียวที่ได้จากการตัดเนื่องจากการรีดเนื้อเหล็กให้แน่นขึ้น